วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551

“อัมมาร” ชี้ หากสภาเลือก “หมัก” กลับเก้าอี้จะกลายเป็น“สภาไร้มารยาท”

อดีตรองนายก “ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม” แนะ สภาไม่ควรเร่งรีบนากยก ควรคิดให้ดีก่อนว่าใครที่จะเป็นนายกแล้ว สามารถแก้ไขปัญหา บ้านเมืองได้ – ประธาน TDRI “อัมมาร สยามวาลา” ดักคอ ส.ส.ในสภา รวมตัวกันเลือก “หมัก” กลับมาเป็นนายก นอกจากจะสร้างความขัดแย้งเพิ่มแล้ว ยังทำให้กลายเป็น “สภาไร้มาทยาท” ที่ละเมิดคำสั่งศาลในทางพฤตินัย
นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการตอบโจทย์ ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ ดำเนินรายการโดยกรุณา บัวคำศรี ว่าสถานการณ์ในวันนี้แม้จะยังไม่เอื้อต่อสร้างความสงบในสังคมมากนัก เพราะแต่ละฝ่ายยังคิดต่างกันอยู่มาก แต่การที่ศาล รธน. ตัดสินให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะสามารถแก้ปัญหาในบ้านเมืองได้ เพียงแต่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะสภาต้องใจเย็นคิดพิจารณาให้ถ้วนถี่ ว่าควรจะเลือกใครเป็นนายก เพื่อให้ปัญหาบ้านเมืองมีทางออก

ทั้งนี้ประการแรกที่ควรจะทำก็คือ สภาไม่ควรที่จะรีบโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันศุกร์ที่ 12 ก.ย.นี้ เพราะไม่จำเป็นต้องเร่งรีบขนาดนั้น เนื่องจากกฎหมายให้เวลาถึง 1 เดือน ดังนั้นรัฐบาลควรใช้เวลาคิดให้คุ้มค่าเสียก่อน เพราะการที่ไม่มีนายกอยู่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศมากมาย ก็คล้ายกับตอนที่นากยกรัฐมนตรีไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ที่สามารถมีนายกรักษาการปฏิบัติหน้าที่แทนได้

นายไพบูลย์ เสนอว่า การแก้ไขปัญหาในขณะนี้ควรให้ทุกฝ่ายมาร่วมพูดคุยกัน โดยหาคนที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายมาเป็นคนกลางในการเจรจา ก็น่าจะทำให้สามารถบรรลุข้อตกลงได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะปัญหาที่มีอยู่ทุกวันนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยของปัญหามีอยู่มากมาย ซึ่งหากจะคาดหวังให้การแก้ปัญหาจบลงอย่างรวดเร็วคงเป็นเรื่องยาก นอกจากนี้ตนยังมองว่า การแก้ปัญหานั้นควรหาหลาย ๆ วิธีมาผสมผสานกัน เพื่อให้ได้ทางออกที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้

ด้าน ศ.ดร.อัมมาร สยามวาลา รักษาการประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่าตนเห็นด้วยเช่นกันว่าไม่ควรจะรีบเลือกนายกรัฐมนตรีในวันศุกร์ที่ 12 นี้ เพราะการทำเช่นนั้นถือเป็นการเร่งรีบจนเกินไป ซึ่งสภาควรจะใช้เวลาพิจารณาให้ดีก่อนที่จะเลือกตัวนายกคนใหม่ เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า แล้วการที่ไม่มีนายกรัฐมนตรีนานเกินไป จะไม่ส่งผลเสียต่อการบริหารประเทศอย่างที่พรรคพลังประชาชนกล่าวอ้างหรือ นายอัมมาร ตอบว่า“บางทีไม่มีคนบริหาร ดีการมีคนบริหารที่ไม่มีใครยอมรับ”

นายอัมมาร กล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวแล้วตนคิดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะผิดมารยาทอย่างร้ายแรง ที่เลือกนายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถึงแม้สิ่งที่สภาฯ ทำจะไม่ได้เป็นการหมิ่นศาลตามหลักนิตินัย แต่โดยพฤตินัยแล้วก็เป็นการหมิ่นศาลอย่างร้ายแรง เพราะหากเลือกนายสมัคร กลับเข้ามาอีก ก็เท่ากับว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ไม่ได้เกิดขึ้น ศาลเหมือนไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะแม้ว่าจะตัดสินไปแล้วว่าคนๆ นี้ไม่มีคุณสมบัติเป็นนายก แต่สภาผู้แทนก็ยังไม่สนใจ ยังจะให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ซึ่งเรื่องนี้แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดมารยาทอย่างมาก

“มันไม่ใช่มารยาทของคุณสมัคร แต่เป็นมารยาทของสภาผู้แทนราษฎรที่เลือกท่านสมัคร และหากสภาผู้แทนราษฎร เลือกท่านจริง ผมก็ต้องยอมรับเพราะผมเป็นประชาชนธรรมดา คงไม่มีอำนาจไปทำอะไร แต่ผมก็จะตราหัวไว้ว่า เป็นสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่มีมารยาท” นายอัมมาร กล่าว

ส่วนทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ปัญหาการเมืองในขณะนี้ ตนมองว่าควรยุบสภา เพราะสภาพของสภาในปัจจุบันมันไปไม่ไหวแล้ว เพราะเสียงข้างมากที่นายสมัคร และพรรคพลังประชาชนมีอยู่ในสภา มันถูกต้องข้อสงสัยว่าไม่ใช่แล้ว เพราะเสียงที่แท้จริงของประชาชนส่วนใหญ่ เริ่มไม่เห็นด้วยที่จะให้เป็นเสียงข้างมากแล้ว ดังนั้นเมื่อพรรคพลังประชาชนเอง ก็ยังมีความคิดอยากจะทำประชามติเพื่อถามประชาชนว่ายังต้องการรัฐบาลชุดนี้อยู่หรือไม่ ดังนั้นก็ควรจะพูดอย่างตรงไปตรงมา ยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ไปเลยจะดีกว่า

4 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

วงจรอุบาทกลับมาอีกครั้ง ยุบเลือก ยุบเลือก เอาไงดี

สิ่งที่ผมคิดได้ตอนนี้ ไม่ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เก็บข่าวพวกนี้ไว้ แล้วไปเล่าความอับอายให้รุ่นลูกๆ ฟังดีกว่า แต่ที่ผมรับไม่ได้คือ คดีนพดล เรื่องเขาพระวิหาร มันบอกว่าเป็นคดีให้นักศึกษาคณะนิติศาตร์ได้ศึกษาต่อไป มาตรา 190 เรื่องดีๆ ผมจะเรียนอยู่หรอกแต่นี้ มันเรื่องเรื่องเสียแผ่นดินไทย แกภูมิใจนักหรือไอ้นพดล

AoMSiN กล่าวว่า...

ในเมื่อศาลตัดสินแล้ว

ก็ไม่ควรที่จะกระทำอัน

เป็นเสมือนการไม่เคารพต่อศาล

ซึ่งเป็นการกระทำที่สมควรแล้วหรือ

By: Pornpicha Moneepu
ID: 5131601414

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

และแล้วผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูฐก้อออกมาเสียที เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศรอดู และกลุ่มที่ดีจัยมากที่สุดน่าจะหนีม่ายพ้นกลุ่มพันธมิตร หุหุ
แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งก้อดีจัยที่เรื่องเริ่มที่จะคลี่คลายเสียที คุนสมัครน่าจะพอเสียทีนะ ได้ข่าวมาว่าจะลงสมัครอีก แล้วไผ่จะเลือกกันล่ะเจ้าคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ในเมื่อศาลตัดสินออกมาแบบนี้แล้ว
เราก็ควรที่จะเคารพการตัดสินใจของศาล
แต่ถ้าในสภาจะเลือกกลับมาอีกมันก็เป็นเหตุผลของเขา
แต่ก็ต้องมาดูกันต่อไปอีกว่า เรื่องนี้จะจบยังไง
และเหตุการณ์นี้เมื่อไรจะสงบ

นางสาววาสินี สวัสดิพงษ์
ID:5131601486
SEC:2