วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

ระเบิดป้อมตร.ยับ ป่วนกรง! ถล่มใกล้ "เวทีมัฆวาน"

"เสธ.แดง"โผล่ดู-ชี้ปม ฟันธงทีเอ็นที-ซ้ำรอย บึ้มบ้านป๋า-สันติอโศก "มหา"ชี้ปั่นสถานการณ์
วางบึ้มป้อมตร.ริมคลองผดุงกรุงเกษม ใกล้เวทีพันธมิตรฯ สะพานมัฆวานฯ กลางดึก แรงระเบิดทำให้กระจก ป้อมและอาคารข้างเคียงแตกกระจายเกลื่อน เศษกิ่งไม้ใบไม้ปลิวว่อน กลิ่นดินปืนคละคลุ้ง โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย "เสธ.แดง"รุดมาดูระบุเป็นระเบิดทีเอ็นที ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ซุกใต้คอมเพรสเซอร์แอร์หลังป้อม ฟังธงเป็นลักษณะเดียวกับบึ้มหน้าบ้านป๋าเปรม พรรคปชป. สันติ อโศก ช่วงคมช.จงรักประเดิมงานรักษาการผบช.น.วันแรกสั่งทุกบก.สน.ป้องกันเหตุรับมือก่อกวนทั่วกรุงเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 1 ก.ย. พ.ต.ท. สุวรรณ ผลอินทร์ พงส.(สบ 3) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งเหตุระเบิดป้อมตำรวจ บริเวณเชิงสะพาน วิศสุกรรมนฤมาน ริมคลองผดุงกรุงเกษม แยกประชาเกษม ถ.กรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา จากนั้นรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รอง ผบก.น.1 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ตปพ.(191)ที่เกิดเหตุเป็นป้อมตำรวจ ตู้สัญญาณไฟเลขที่ 083 เชิงสะพานวิศสุกรรมนฤมาน ริมคลองผดุงกรุงเกษม ฝั่งวัดมกุฏกษัตริยาราม ตรงข้ามคุรุสภา ห่างจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ ที่ตั้งเวทีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กและเชือกมาปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุ รวมถึงติดแผ่นป้ายข้อความเป็นพื้นที่อันตรายห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป พร้อมทั้งปิดถนนชั่วคราวเพื่อตรวจสอบพื้นที่ และเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุจากการตรวจสอบพบว่า แรงระเบิดทำให้กระจกของป้อมตำรวจแตกได้รับความเสียหาย เศษกระจกกระจัดกระจายเต็มพื้นถนนและบริเวณใกล้เคียง ด้านหลังป้อมพบซากคอมเพรสเซอร์แอร์ถูกแรงระเบิดอัดจนพังยับเยิน กิ่งไม้และเศษกระดาษหล่นทับเต็มไปหมด กลิ่นดินปืนคลุ้งไปทั่วบริเวณ แรงดันระเบิดยังส่งผลต่อเนื่องให้กระจกอาคารเลขที่ 302-306 ของสมาคมสหพันธ์โรงเรียนเอกชนแห่งประเทศไทยสูง 4 ชั้น แตกร้าวถึง 8 บาน แต่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตและบาดเจ็บ
ร่วมตรวจ- "เสธ.แดง"พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายทหารคนดัง เดินทางไปดูที่เกิดเหตุระเบิดบริเวณป้อมจราจรสน.นางเลิ้ง ริมคลองผดุงกรุงเกษม ใกล้เวทีกลุ่มพันธมิตรฯ พบเป็นระเบิดชนิดทีเอ็นที ตร.ระบุเป็นการป่วนเมืองเท่านั้นสอบสวนนายวนัส ศิริรักษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 887/39 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. โชเฟอร์แท็กซี่สีชมพู ทะเบียน ทร 4671 กทม. เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาส่งผู้โดยสารแถวสะพานมัฆวานฯ จากนั้นรถมาติดสัญญาณไฟแดงบริเวณแยกประชาเกษม ใกล้จุดเกิดเหตุ จังหวะสัญญาณไฟเขียวได้ขับรถเลี้ยวขวาขึ้นสะพานไปทางคุรุสภา ช่วงกำลังจะลงสะพานได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น 1 ครั้ง เมื่อหันหลังไปมองพบเปลวไฟลุกขึ้นบริเวณหลังป้อมตำรวจ มีควันสีดำออกมาจำนวนมาก จึงรีบจอดรถออกมาสำรวจดูสภาพรถของตนเอง แต่ไม่ได้รับความเสียหายเพราะขับเลยป้อมมาพอสมควร อีกไม่นานตำรวจก็เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุต่อมาเวลา 01.30 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พร้อมด้วยนายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เสธ.แดงบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เพิ่งจะกลับจากงาน "เสธ.แดงทอล์ก" ที่โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ พอดีได้ยินข่าวระเบิดจึงเดินทางมาดู จากนั้นเสธ.แดงเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุประมาณ 20 นาที แล้วออกมาเปิดเผยว่า เท่าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับตำรวจน่าจะเป็นระเบิดทีเอ็นที ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ นำมาซุกไว้ใต้คอม เพรสเซอร์แอร์ด้านหลังป้อม แรงระเบิดทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ฉีกขาด กระจกป้อมแตกกระจาย ส่งผลไปถึงอาคารตรงข้ามเสธ.แดงกล่าวต่อว่า ตรวจสอบโดยรอบแล้วไม่พบสะเก็ดระเบิด เพราะเป็นระเบิดใช้แรงดัน คาดว่าคนวางไม่ได้หวังทำร้ายใคร แต่ถ้ามีคนอยู่ใกล้ป้อมตำรวจในช่วงระเบิดแรงระเบิดทำให้ถึงตายได้ ส่วนใช้อะไรเป็นตัวจุดชนวนต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ระเบิดชนิดนี้คล้ายกับที่เคยใช้ก่อเหตุหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ และสำนักสันติอโศก เมื่อครั้งมีกลุ่มการเมืองออกมาขับไล่คมช.ด้านพ.ต.อ.ทรงพล วัฒนะชัย รองผบก.น.1 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบจุดระเบิดซึ่งใกล้กับคอมเพรสเซอร์แอร์ด้านหลังป้อมตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดทีเอ็นที ไม่มีสะเก็ดระเบิด ไม่หวังผลต่อชีวิต แค่ต้องการทำให้เกิดความเสียหายเท่านั้น โดยป้อมตำรวจจุดนี้ปกติปิดใช้งานประมาณ 3 ทุ่ม คิดว่าคนร้ายน่าจะนำมาวางไว้หลัง 3 ทุ่มไปแล้ว บริเวณดังกล่าวไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว เพื่อนำไปตรวจสอบตามกระบวนการอีกครั้งคาดว่าใช้เวลาไม่นานจะทราบรายละเอียดอื่นๆ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์วันเดียวกันเวลา 08.40 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. และรักษาการผบช.น. เดินทางมายังบช.น. เพื่อร่วมประชุมกับพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เมื่อมาถึงพล.ต.อ.จงรักเข้ากราบไหว้สักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากฤษฎาภินิหาร กรมพระยานเรศวรฤทธิ์ เจ้ากรมนครบาลคนแรกพล.ต.อ.จงรักกล่าวถึงเหตุระเบิดป้อมตำรวจเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานว่าเวลาประมาณ 02.00 น. มีเหตุระเบิดขึ้น เชื่อว่าน่าจะเป็นมือที่ 3 เพราะระเบิดไม่ได้มุ่งหวังทำลายชีวิตหรือทรัพย์สิน น่าจะต้องการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง หากใครเป็นคนทำขอให้หยุด เพราะบ้านเมืองบอบช้ำมามากแล้ว อยากให้แก้ไขตามวิถีทางของกฎหมายและรัฐธรรมนูญดีกว่า ช่วงที่ผ่านมามีระเบิดมาแล้วนับ 10 ครั้ง ส่วนครั้งนี้เป็นระเบิดชนิดใดนั้น ขอเวลาผกก.สน.นางเลิ้ง รวบรวมพยานหลักฐานก่อน รวมทั้งต้องรอผลพิสูจน์จากพฐ.ด้วยผู้สื่อข่าวถามว่ารู้ตัวมาก่อนหรือไม่ว่าต้องมา ดูแลบช.น.แทนพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ในลักษณะนี้ พล.ต.อ.จงรักกล่าวว่า ไม่ทราบมาก่อน รู้ว่าต้องมาทำงานเมื่อวานนี้ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะตนโตที่นี่ มีลูกน้องเยอะแยะ วันนี้มาทำงานก็เอาปากกามาด้ามเดียว และทำหน้าที่เพียงแค่รักษาการผบช.น. ส่วน ผบ.ดูแลเหตุการณ์การชุมนุมยังมอบหมายพล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รองผบช.น. ว่าที่ผบช.น. รับผิดชอบด้านพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ถามว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ขณะนี้ได้หรือไม่ว่า เท่าที่เห็นไม่มีอะไร เราต้องป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ไม่มีอะไรขณะที่พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ร่วมกันแถลงข่าวที่เวทีพันธมิตรฯ ภายในทำเนียบรัฐบาล โดยพล.ต.จำลองกล่าวถึงเหตุระเบิดที่ป้อมตำรวจใกล้กับสถานที่ชุมนุมเวทีมัฆวานฯ ว่า ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของใคร และยังไม่ได้ไปดูที่เกิดเหตุ แต่เชื่อว่าไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนจะเป็นฝีมือของใครนั้นตนไม่ขอวิจารณ์ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงเหตุระเบิดป้อมตำรวจหน้าวัดมกุฏฯ ว่า ยังไม่ได้รับรายงานจากตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก่อนหน้านี้กำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ ศธ.ดูแลตรวจตราภายในกระทรวงอย่างเข้มงวดตลอด 24 ช.ม. นอกจากนี้ยังปิดประตูทางเข้า-ออกของกระทรวงทุกประตู ยกเว้นประตูด้านคุรุสภา ถนนราชสีมา โดยให้เข้า-ออกได้เฉพาะประตูนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตามเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องที่แต่ละหน่วยงานต้องเฝ้าระมัดระวัง

6 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

สังคมไทยในปัจจุบัน แย่ลงทุกวัน



วุ่นวาย ไม่จบสิ้น


เห็นแก่ประโยชน์พวกพ้อง


5131601556 Sec.2

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พวกดีแต่ชอบสร้างความวุ่นวาย

เมื่อไหร่จะจบ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เราคนไทยด้วยกันเองแท้ๆ
ไม่น่าจะทำกันแบบนี้เลย
ฆ่ากันเองชัดๆๆ
อยากให้เรื่องวุ่นวายพวกนี้จบสิ้นซะที
กลับมาช่วยกันพัฒนาประเทศเถอะนะ

นางสาววาสินี สวัสดิพงษ์
ID:5131601486

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอนนี้ยังเคารพ ประธิปไตยอยู่หรือป่าว

บ้านเมืองไทย มีกฏหมายไว้ทำไมอะคับ

รัฐบาลก้อไม่ยอมลาออกไปสักที่ไม่เห็นมีไรดีขึ้นเลย

น่าห่วงมากคับ

นายชัยวัฒน์ อนุกูลวุฒิพงศ์

ID 5131601298

เจ้าชายอสูร กล่าวว่า...

ถูกคนขับไล่ทั้งประเทศ แต่นายกรัฐมนตรี สมัคร ก็ยังเฉย ไม่คิดจะลาออก หรือยุบสภาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา การกระทำเช่นนี้ จะยิ่งทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายไม่จบสิ้น

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ลาออกไปไม่งั้นก็ยุบสภาไปซะ


ถ้ายังอยู่เรื่องก็ไม่จบ


วุ่ยวายกันจิงๆ