วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

ไม่จบเศรษฐกิจพังยับ ลือสะพัด'สมัคร'ถอดใจลาออก

หวั่นการเมืองเรื้อรังฉุดเศรษฐกิจไทยพังยับ นักวิชาการ-นักการเงินแนะสมัคร"สวมหัวใจนักประชาธิปไตย "ลาออก-ยุบสภา ว่าที่ประธานทีดีอาร์ไอเผยไม่ห่วงผลระยะสั้น แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อเกิน 6 เดือน เศรษฐกิจปีหน้ารับศึกหนัก ฝากบทเรียนอย่าแก้ปัญหาพื้นฐานแบบยาปวดหัวตัวร้อน แบงก์ชาติชี้ติดตามปัจจัยการเมืองใกล้ชิด ลือสะพัดนายกรัฐมนตรี อาจถอดใจลาออก
ผลกระทบที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ต้องการขับไล่รัฐบาล ซึ่งยังไม่มีทางออกที่ชัดเจนของปัญหา กำลังเป็นที่กังวลว่าหากสถานการณ์รุนแรงและยืดเยื้อ นอกจากความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจที่ถูกกระทบเป็นลำดับแรกแล้ว ยังมีการคาดการณ์ว่าไม่ว่าทางออกของปัญหาจะเป็นไปในรูปแบบของประชาธิปไตยหรือไม่ เศรษฐกิจไทยอาจกลับสู่ช่วงสุญญากาศอีกครั้งหนึ่ง
++TDRIชี้6เดือนไม่จบน่าเป็นห่วง
ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร ว่าที่ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หากมองในระยะสั้น หรือภายในระยะ 6 เดือนนี้ แม้ว่าผลต่อสถานการณ์ทางการเมืองจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้าง ก็ไม่ห่วง เพราะที่ผ่านมามีการรับรู้ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด สะท้อนได้จากสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยหรือการลงทุนจากต่างประเทศที่ไม่ได้ถึงขั้นตกลงมาก ดังนั้นเป้าหมายจีดีพีที่ 6% หรือโตใกล้เคียง 6% ในปีนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่
แต่ในกรณีที่ผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองลากยาวและยืดเยื้อไปเกิน 6 เดือน ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในปีหน้า โดยเฉพาะถ้าภาวะการเมืองแย่ ก็อย่าหวังว่าเศรษฐกิจจะดี
ซึ่งทางออกของปัญหาที่ดีที่สุดไม่ควรจะเป็นการปฏิวัติหรือเกิดการนองเลือด แต่ต้องเป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการยุบสภา หรือรัฐบาลลาออก
++ฝากบทเรียนแก้ศก.แบบยาปวดหาย
นอกจากนี้ ว่าที่ประธานทีดีอาร์ไอ ยังได้กล่าวว่า หลังจากที่สถานการณ์การเมืองคลี่คลายแล้ว ยังมีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา เช่น การดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ต้องมีคุณภาพ
และเป็นนโยบายระยะกลางจริงๆ รวมทั้งเป็นการแก้ปัญหาที่พื้นฐาน ไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบปวดหัวตัวร้อน เช่น นโยบาย 6 เดือน 6 มาตรการที่ควรใช้เป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น
ส่วนมาตรการเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะออกมาเพิ่มเติมนั้น ต้องประเมินสถานการณ์และปรับตัวตามเศรษฐกิจโลก ที่ขณะนี้ทั้งราคาน้ำมันและราคาอาหารได้ปรับลดลงแล้ว และที่สำคัญต้องไม่ทำนโยบายที่ทำให้เกิดความขัดแย้งของคนชั้นกลางในเมืองและชนบทเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้
+++เสนอทางออกตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ
ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า ทางออกที่ดีที่สุดของประเทศในเวลานี้ คือ รัฐบาลต้องแสดงสปิริต ยอมลาออก และตั้งคณะบุคคล หรือรัฐบาลเฉพาะกิจขึ้นมาบริหารชั่วคราวอาจประมาณ 6 เดือน โดยหาบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากสังคมขึ้นมาทำหน้าที่ ทั้งนี้เพื่อช่วยดับความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ขณะที่ดร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า สถานการณ์ขณะนี้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก คงไม่กล้าประเมินตอนนี้ ขอรอดูสถานการณ์ก่อน
+++แบงก์ชาติติดตามใกล้ชิด
ดร.อมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นว่า สถานการณ์การเมืองที่เพิ่มความรุนแรงขึ้น เป็นปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุน การบริโภค และการท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดความรุนแรงของสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากสถานการณ์ยุติด้วยความเรียบร้อยไม่มีความรุนแรง ปัจจัยด้านการเมืองก็จะเป็นปัจจัยเสี่ยงชั่วคราว
+++ลือสะพัดนายกฯ อาจถอดใจลาออก
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (บมจ.) กล่าวถึงข่าวลือสะพัดที่ว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเลือกที่จะลาออกหรือยุบสภา ผมมองว่าถ้าไม่มีปฏิวัติสถานการณ์จะดีขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่เช่นนั้นต่างประเทศจะกลัว ไม่กล้าเข้ามาลงทุนและหากจบได้ภายใน 2-3 วันนี้ก็จะดี ส่วนที่ว่านายกรัฐมนตรี จะเลือกวิธีไหนต้องตัดสินใจให้ดีเพราะมีผลต่อประเทศชาติ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่าน แต่ก็อยากให้ทุกฝ่ายมองประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
+++คาดหวังได้คนสะอาดปลอดนายทุนหนุน
นายองอาจ มหาดำรงค์กุล กรรมการบริหาร หจก.ศรีทองพาณิชย์ กล่าวว่าหากนายกรัฐมนตรีลาออก สถานการณ์โดยรวมจะดีขึ้น กลุ่มพันธมิตรฯน่าจะเลิกชุมนุม ภาพลักษณ์ประเทศกลับมาดี ทั้งการลงทุน-อารมณ์ผู้บริโภคกำลังซื้อดีขึ้น ส่วนความคาดหวังทางการเมืองใหม่ ตนอยากได้นักการเมืองที่สะอาด ปลอดโปร่ง ไม่มีนายทุนซัพพอร์ต ทำเพื่อประเทศชาติจริงจัง ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง และมีจุดยืนเป็นตัวของตัวเอง
"ที่ผ่านมานักธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบรัฐบาลชุดนี้ เพราะเป็นนอมินีทั้งหมด เศรษฐกิจหลังรัฐบาลใหม่อาจต้องใช้เวลาพลิกฟื้น เพราะที่ผ่านมาการค้าการลงทุนชะลอตัวทำให้ประเทศเสียหายไปเยอะ ถ้าได้รัฐบาลใหม่คิดว่าอาจต้องใช้เวลาปรับปรุงพอสมควร"
นักธุรกิจภูธร เสียงแตก สมัคร ออกบ้านเมืองยังวุ่นวายเหมือนเดิม
กงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ไม่ว่านายกรัฐมนตรีไทย จะตัดสินใจลาออกหรือยุบสภา ผมก็ยังไม่มั่นใจว่าปัญหาต่างๆจะยุติลงได้ในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจจะลดบรรยากาศความตึงเครียดที่เกิดขึ้นได้บ้าง
"เป้าหมายหลักของกลุ่มพันธมิตรฯ คือไม่ต้องการพรรคพลังประชาชน ดังนั้นหากนายสมัคร ลาออก ก็ต้องดึงคนในรัฐบาลขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ทางพันธมิตรฯก็คงมีการเดินหน้าเรียกร้องต่อไปเรื่อยๆหรือแม้จะมีการยุบสภา แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ หากพรรคพลังประชาชนกลับมาเป็นรัฐบาลอีก จะเป็นอย่างไร ดูเหมือนจะเป็นทางตันไปหมด ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างมาก หากไม่สามารถยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้"
++ไม่เชื่อ"สมัคร"จะลาออกง่าย ๆ
อย่างไรก็ตามด้านนายคมสัน โพธิ์คง ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) กล่าวว่าการที่นายสมัครจะลาออก เป็นเรื่องลำบากมากเพราะเป็นคนที่ยอมหักไม่ยอมงอ นอกเสียจากว่าจะมีการโค่นลงจนถึงที่สุดจริงๆ อย่างไรก็ตามหากจะลาออกจริงเรื่องจะยังไม่ยุติเหตุการณ์อาจเบาลงเท่านั้น และหากลาออกพรรคพลังประชาชนก็จะหาคนใหม่มาเปลี่ยนตัว เป้าหมายของกลุ่มพันธมิตรฯก็จะเปลี่ยนไปโจมตีคนใหม่เพราะตอนนี้สถานการณ์บานปลายไปแล้วแต่หากนายกฯลาออกจริงก็ขึ้นกับกลุ่มพันธมิตรฯว่าจะรอกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ถ้ารอก็ถือว่าเป็นการยอมถอยเช่นกัน ส่วนการยุบสภามองว่าคงยากยิ่งขึ้น
ขณะที่ ดร.เจษฎ์ โทณวณิก นักวิชาการอิสระ เห็นว่าทางออกในขณะนี้คือควรต้องมีการถอย รัฐบาลควรถอยด้วยการลาออกทั้งคณะ และทางพันธมิตรฯก็ควรเลิกชุมนุม คิดว่าบ้านเมืองเกิดการระส่ำและอยู่ในภาวะความไม่สงบลุกลามไปทั่ว ถ้ารัฐบาลยังคงอยู่ก็ไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย รัฐบาลและพันธมิตรฯไม่ยอม ประชาชนแพ้เท่ากับประเทศก็จะล้ม ซึ่งใครจะเสนอถอยก่อนก็น่าจะดีที่สุด
+++สศค. เตรียมปรับประมาณการจีดีพี
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า ความรุนแรงของสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ หากนำไปสู่กระบวนการลาออกของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หรือการยุบสภา ก็ยังไม่สามารถที่จะประเมินได้อย่างชัดเจนว่า ทิศทางของเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นหรือแย่ลง เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ก็มีบางครั้งที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแล้ว เศรษฐกิจก็มีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น จึงน่าจะขึ้นอยู่กับความชัดเจนทางการเมืองมากกว่า
ในส่วนของผลกระทบทางเศรษฐกิจ คงกระทบต่อตัวเลขการใช้จ่ายภายในประเทศบ้าง ซึ่งเป็นการบั่นทอนตัวเลขการใช้จ่ายและการลงทุน ที่กำลังมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน ซึ่งสศค.ประเมินว่าจะบั่นทอนอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของไทยลดลง และอาจทำให้โครงสร้างจีดีพีของไทยกลับไปอยู่ในสภาพเดิม ที่เป็นการเติบโตด้วยการพึ่งพาการส่งออกเพียงด้านเดียว
นอกจากนี้ อาจส่งผลกระทบในด้านดุลบริการ ที่สถานการณ์ที่เป็นอยู่อาจจะกระทบกับตัวเลขการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ที่ปกติจะมีการจองห้องพักล่วงหน้าไว้ประมาณ 3 เดือน ดังนั้นจึงเชื่อว่า แนวโน้มตัวเลขการท่องเที่ยวในระยะต่อไปน่าจะมีการปรับตัวลดลงไปได้บ้าง ส่วนผลกระทบต่อจีดีพีโดยรวมนั้น สศค. จะมีการประกาศตัวเลขคาดการณ์จีดีพีอีกครั้ง ในวันที่ 25 กันยายน 2551 นี้ โดยจะมีการนำเอาปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองและผลกระทบต่างๆ เข้ามาพิจารณาร่วมด้วย โดยที่ก่อนหน้านี้ สศค. คาดว่า จีดีพีของไทยตลอดทั้งปี 2551 จะมีการขยายตัวได้ในช่วง 5-6% ต่อปี
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ธปท.เพิ่งปรับประมาณการจีดีพีปี 2551 อยู่ที่ 4.8-5.8% และในปี 2552 ประมาณการไว้ที่ 4.3-5.8% ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ประมาณการจีดีพีปีนี้ไว้ที่ 5.2-5.7%


ที่มา:http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=T0123531&issue=2353

5 ความคิดเห็น:

Mrmondaynight กล่าวว่า...

อย่าลาออกเลยครับคนเดียวอ่ะ ถ้าจะออกไปทั้งกลุ่มนั้นแหละ จะได้หมดเรื่องหมดราวไป น่าจะคิดถอดใจหรือไม่ก็น่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าควรจะทำไง

นายปารเมศ เนื่องชมภู รหัสนักศึกษา 5131601399
section 02 school of law

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ลาออกไปซะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มันน่าจะยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ไปเลย

ยื้ออยุ่อย่างนี้ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา

มีแต่ทำให้ประเทศวุ่นวายเปล่าๆ

มัวแต่โทษ พธม.

ที่เค้าออกมาอย่างนี้ก็เพราะใครหละ??

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่ว่าท่านนายกจะตัดสินใจยังไง
หรือใครจะทำอะไรก็ตามแต่
อยากให้คิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก
เพราะทุกวันนี้ประเทศชาติเราก็แย่มากพอแล้ว
อยากให้ประเทศเรากลับมาสงบสุขเหมือนเดิม

นางสาววาสินี สวัสดิพงษ์
ID:5131601486

king_violentcy กล่าวว่า...

ทางทีทีดีน่ะ ท่าท่านสมัครสามรถแก้ไขปัญหานี้ได้ก็ควรรีบแก้ไขให้โดยเร็วที่สุด ท่าท่านยังแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ก็ควรล่าออกซะ เพราะท่าปล่อยห้ยืดเยื้อต่อไปแบบนี้ เศรษฐกิจของประเทศพังแน่ๆๆ

Patcharaporn Choowong
ID:5131601423