หวั่นการเมืองเรื้อรังฉุดเศรษฐกิจไทยพังยับ นักวิชาการ-นักการเงินแนะสมัคร"สวมหัวใจนักประชาธิปไตย "ลาออก-ยุบสภา ว่าที่ประธานทีดีอาร์ไอเผยไม่ห่วงผลระยะสั้น แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อเกิน 6 เดือน เศรษฐกิจปีหน้ารับศึกหนัก ฝากบทเรียนอย่าแก้ปัญหาพื้นฐานแบบยาปวดหัวตัวร้อน แบงก์ชาติชี้ติดตามปัจจัยการเมืองใกล้ชิด ลือสะพัดนายกรัฐมนตรี อาจถอดใจลาออก
ผลกระทบที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ต้องการขับไล่รัฐบาล ซึ่งยังไม่มีทางออกที่ชัดเจนของปัญหา กำลังเป็นที่กังวลว่าหากสถานการณ์รุนแรงและยืดเยื้อ นอกจากความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจที่ถูกกระทบเป็นลำดับแรกแล้ว ยังมีการคาดการณ์ว่าไม่ว่าทางออกของปัญหาจะเป็นไปในรูปแบบของประชาธิปไตยหรือไม่ เศรษฐกิจไทยอาจกลับสู่ช่วงสุญญากาศอีกครั้งหนึ่ง
++TDRIชี้6เดือนไม่จบน่าเป็นห่วง
ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร ว่าที่ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หากมองในระยะสั้น หรือภายในระยะ 6 เดือนนี้ แม้ว่าผลต่อสถานการณ์ทางการเมืองจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้าง ก็ไม่ห่วง เพราะที่ผ่านมามีการรับรู้ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด สะท้อนได้จากสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยหรือการลงทุนจากต่างประเทศที่ไม่ได้ถึงขั้นตกลงมาก ดังนั้นเป้าหมายจีดีพีที่ 6% หรือโตใกล้เคียง 6% ในปีนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่
แต่ในกรณีที่ผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองลากยาวและยืดเยื้อไปเกิน 6 เดือน ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในปีหน้า โดยเฉพาะถ้าภาวะการเมืองแย่ ก็อย่าหวังว่าเศรษฐกิจจะดี
ซึ่งทางออกของปัญหาที่ดีที่สุดไม่ควรจะเป็นการปฏิวัติหรือเกิดการนองเลือด แต่ต้องเป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการยุบสภา หรือรัฐบาลลาออก
++ฝากบทเรียนแก้ศก.แบบยาปวดหาย
นอกจากนี้ ว่าที่ประธานทีดีอาร์ไอ ยังได้กล่าวว่า หลังจากที่สถานการณ์การเมืองคลี่คลายแล้ว ยังมีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา เช่น การดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ต้องมีคุณภาพ
และเป็นนโยบายระยะกลางจริงๆ รวมทั้งเป็นการแก้ปัญหาที่พื้นฐาน ไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบปวดหัวตัวร้อน เช่น นโยบาย 6 เดือน 6 มาตรการที่ควรใช้เป็นมาตรการชั่วคราวเท่านั้น
ส่วนมาตรการเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะออกมาเพิ่มเติมนั้น ต้องประเมินสถานการณ์และปรับตัวตามเศรษฐกิจโลก ที่ขณะนี้ทั้งราคาน้ำมันและราคาอาหารได้ปรับลดลงแล้ว และที่สำคัญต้องไม่ทำนโยบายที่ทำให้เกิดความขัดแย้งของคนชั้นกลางในเมืองและชนบทเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้
+++เสนอทางออกตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ
ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า ทางออกที่ดีที่สุดของประเทศในเวลานี้ คือ รัฐบาลต้องแสดงสปิริต ยอมลาออก และตั้งคณะบุคคล หรือรัฐบาลเฉพาะกิจขึ้นมาบริหารชั่วคราวอาจประมาณ 6 เดือน โดยหาบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากสังคมขึ้นมาทำหน้าที่ ทั้งนี้เพื่อช่วยดับความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ขณะที่ดร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า สถานการณ์ขณะนี้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก คงไม่กล้าประเมินตอนนี้ ขอรอดูสถานการณ์ก่อน
+++แบงก์ชาติติดตามใกล้ชิด
ดร.อมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นว่า สถานการณ์การเมืองที่เพิ่มความรุนแรงขึ้น เป็นปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุน การบริโภค และการท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดความรุนแรงของสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากสถานการณ์ยุติด้วยความเรียบร้อยไม่มีความรุนแรง ปัจจัยด้านการเมืองก็จะเป็นปัจจัยเสี่ยงชั่วคราว
+++ลือสะพัดนายกฯ อาจถอดใจลาออก
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (บมจ.) กล่าวถึงข่าวลือสะพัดที่ว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเลือกที่จะลาออกหรือยุบสภา ผมมองว่าถ้าไม่มีปฏิวัติสถานการณ์จะดีขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่เช่นนั้นต่างประเทศจะกลัว ไม่กล้าเข้ามาลงทุนและหากจบได้ภายใน 2-3 วันนี้ก็จะดี ส่วนที่ว่านายกรัฐมนตรี จะเลือกวิธีไหนต้องตัดสินใจให้ดีเพราะมีผลต่อประเทศชาติ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่าน แต่ก็อยากให้ทุกฝ่ายมองประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
+++คาดหวังได้คนสะอาดปลอดนายทุนหนุน
นายองอาจ มหาดำรงค์กุล กรรมการบริหาร หจก.ศรีทองพาณิชย์ กล่าวว่าหากนายกรัฐมนตรีลาออก สถานการณ์โดยรวมจะดีขึ้น กลุ่มพันธมิตรฯน่าจะเลิกชุมนุม ภาพลักษณ์ประเทศกลับมาดี ทั้งการลงทุน-อารมณ์ผู้บริโภคกำลังซื้อดีขึ้น ส่วนความคาดหวังทางการเมืองใหม่ ตนอยากได้นักการเมืองที่สะอาด ปลอดโปร่ง ไม่มีนายทุนซัพพอร์ต ทำเพื่อประเทศชาติจริงจัง ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง และมีจุดยืนเป็นตัวของตัวเอง
"ที่ผ่านมานักธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบรัฐบาลชุดนี้ เพราะเป็นนอมินีทั้งหมด เศรษฐกิจหลังรัฐบาลใหม่อาจต้องใช้เวลาพลิกฟื้น เพราะที่ผ่านมาการค้าการลงทุนชะลอตัวทำให้ประเทศเสียหายไปเยอะ ถ้าได้รัฐบาลใหม่คิดว่าอาจต้องใช้เวลาปรับปรุงพอสมควร"
นักธุรกิจภูธร เสียงแตก สมัคร ออกบ้านเมืองยังวุ่นวายเหมือนเดิม
กงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ไม่ว่านายกรัฐมนตรีไทย จะตัดสินใจลาออกหรือยุบสภา ผมก็ยังไม่มั่นใจว่าปัญหาต่างๆจะยุติลงได้ในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจจะลดบรรยากาศความตึงเครียดที่เกิดขึ้นได้บ้าง
"เป้าหมายหลักของกลุ่มพันธมิตรฯ คือไม่ต้องการพรรคพลังประชาชน ดังนั้นหากนายสมัคร ลาออก ก็ต้องดึงคนในรัฐบาลขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ทางพันธมิตรฯก็คงมีการเดินหน้าเรียกร้องต่อไปเรื่อยๆหรือแม้จะมีการยุบสภา แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ หากพรรคพลังประชาชนกลับมาเป็นรัฐบาลอีก จะเป็นอย่างไร ดูเหมือนจะเป็นทางตันไปหมด ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างมาก หากไม่สามารถยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้"
++ไม่เชื่อ"สมัคร"จะลาออกง่าย ๆ
อย่างไรก็ตามด้านนายคมสัน โพธิ์คง ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) กล่าวว่าการที่นายสมัครจะลาออก เป็นเรื่องลำบากมากเพราะเป็นคนที่ยอมหักไม่ยอมงอ นอกเสียจากว่าจะมีการโค่นลงจนถึงที่สุดจริงๆ อย่างไรก็ตามหากจะลาออกจริงเรื่องจะยังไม่ยุติเหตุการณ์อาจเบาลงเท่านั้น และหากลาออกพรรคพลังประชาชนก็จะหาคนใหม่มาเปลี่ยนตัว เป้าหมายของกลุ่มพันธมิตรฯก็จะเปลี่ยนไปโจมตีคนใหม่เพราะตอนนี้สถานการณ์บานปลายไปแล้วแต่หากนายกฯลาออกจริงก็ขึ้นกับกลุ่มพันธมิตรฯว่าจะรอกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ถ้ารอก็ถือว่าเป็นการยอมถอยเช่นกัน ส่วนการยุบสภามองว่าคงยากยิ่งขึ้น
ขณะที่ ดร.เจษฎ์ โทณวณิก นักวิชาการอิสระ เห็นว่าทางออกในขณะนี้คือควรต้องมีการถอย รัฐบาลควรถอยด้วยการลาออกทั้งคณะ และทางพันธมิตรฯก็ควรเลิกชุมนุม คิดว่าบ้านเมืองเกิดการระส่ำและอยู่ในภาวะความไม่สงบลุกลามไปทั่ว ถ้ารัฐบาลยังคงอยู่ก็ไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย รัฐบาลและพันธมิตรฯไม่ยอม ประชาชนแพ้เท่ากับประเทศก็จะล้ม ซึ่งใครจะเสนอถอยก่อนก็น่าจะดีที่สุด
+++สศค. เตรียมปรับประมาณการจีดีพี
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า ความรุนแรงของสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ หากนำไปสู่กระบวนการลาออกของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หรือการยุบสภา ก็ยังไม่สามารถที่จะประเมินได้อย่างชัดเจนว่า ทิศทางของเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นหรือแย่ลง เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ก็มีบางครั้งที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแล้ว เศรษฐกิจก็มีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น จึงน่าจะขึ้นอยู่กับความชัดเจนทางการเมืองมากกว่า
ในส่วนของผลกระทบทางเศรษฐกิจ คงกระทบต่อตัวเลขการใช้จ่ายภายในประเทศบ้าง ซึ่งเป็นการบั่นทอนตัวเลขการใช้จ่ายและการลงทุน ที่กำลังมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน ซึ่งสศค.ประเมินว่าจะบั่นทอนอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของไทยลดลง และอาจทำให้โครงสร้างจีดีพีของไทยกลับไปอยู่ในสภาพเดิม ที่เป็นการเติบโตด้วยการพึ่งพาการส่งออกเพียงด้านเดียว
นอกจากนี้ อาจส่งผลกระทบในด้านดุลบริการ ที่สถานการณ์ที่เป็นอยู่อาจจะกระทบกับตัวเลขการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ที่ปกติจะมีการจองห้องพักล่วงหน้าไว้ประมาณ 3 เดือน ดังนั้นจึงเชื่อว่า แนวโน้มตัวเลขการท่องเที่ยวในระยะต่อไปน่าจะมีการปรับตัวลดลงไปได้บ้าง ส่วนผลกระทบต่อจีดีพีโดยรวมนั้น สศค. จะมีการประกาศตัวเลขคาดการณ์จีดีพีอีกครั้ง ในวันที่ 25 กันยายน 2551 นี้ โดยจะมีการนำเอาปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองและผลกระทบต่างๆ เข้ามาพิจารณาร่วมด้วย โดยที่ก่อนหน้านี้ สศค. คาดว่า จีดีพีของไทยตลอดทั้งปี 2551 จะมีการขยายตัวได้ในช่วง 5-6% ต่อปี
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ธปท.เพิ่งปรับประมาณการจีดีพีปี 2551 อยู่ที่ 4.8-5.8% และในปี 2552 ประมาณการไว้ที่ 4.3-5.8% ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ประมาณการจีดีพีปีนี้ไว้ที่ 5.2-5.7%
ที่มา:http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=T0123531&issue=2353
Environment and Development Midterm Score
14 ปีที่ผ่านมา
5 ความคิดเห็น:
อย่าลาออกเลยครับคนเดียวอ่ะ ถ้าจะออกไปทั้งกลุ่มนั้นแหละ จะได้หมดเรื่องหมดราวไป น่าจะคิดถอดใจหรือไม่ก็น่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าควรจะทำไง
นายปารเมศ เนื่องชมภู รหัสนักศึกษา 5131601399
section 02 school of law
ลาออกไปซะ
มันน่าจะยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ไปเลย
ยื้ออยุ่อย่างนี้ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา
มีแต่ทำให้ประเทศวุ่นวายเปล่าๆ
มัวแต่โทษ พธม.
ที่เค้าออกมาอย่างนี้ก็เพราะใครหละ??
ไม่ว่าท่านนายกจะตัดสินใจยังไง
หรือใครจะทำอะไรก็ตามแต่
อยากให้คิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก
เพราะทุกวันนี้ประเทศชาติเราก็แย่มากพอแล้ว
อยากให้ประเทศเรากลับมาสงบสุขเหมือนเดิม
นางสาววาสินี สวัสดิพงษ์
ID:5131601486
ทางทีทีดีน่ะ ท่าท่านสมัครสามรถแก้ไขปัญหานี้ได้ก็ควรรีบแก้ไขให้โดยเร็วที่สุด ท่าท่านยังแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ก็ควรล่าออกซะ เพราะท่าปล่อยห้ยืดเยื้อต่อไปแบบนี้ เศรษฐกิจของประเทศพังแน่ๆๆ
Patcharaporn Choowong
ID:5131601423
แสดงความคิดเห็น