วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

ปิดสนามบินฝรั่งหนีกระเจิง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) ว่า นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท.ได้เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการวางแผน การท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤติ (ศวก.) โดยมีผู้บริหาร ททท. พร้อมหน้าและเชิญผู้ประกอบการในภาคเอกชนมาให้ข้อมูลผลกระทบที่ได้รับจากการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โดยล่าสุดสำนักงาน ททท.ที่อยู่ในต่างประเทศได้ส่งข้อมูลว่าขณะนี้ 5 ประเทศที่ออกหนังสือเตือนประชาชนในประเทศให้ระมัด ระวังการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา และอังกฤษ
นางพรทิพย์ หิรัญเกตุ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า สภาฯได้ออกแถลงการณ์กรณีการชุมนุมของ พธม.มีสาระสำคัญว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบด้านลบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างรุนแรงแล้ว จึงเรียกร้องให้รัฐบาลและ พธม.คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นสำคัญ เพราะการเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบฯและสถานที่ราชการ รวมทั้งการชุมนุมในหลายจังหวัดทั้งการปิดถนน สนามบิน หยุดเดินรถไฟ ยกเลิกเที่ยวบินและอื่นๆ ที่กำลังจะตามมารวมทั้งการปะทะโดยใช้กำลังทั้งสองเป็นระยะๆ ได้ส่งผลลบแก่อุตสาห-กรรมท่องเที่ยวรุนแรง โดยนักท่องเที่ยวได้เริ่มแจ้งยกเลิกการเดินทางเข้ามาไทย เนื่องจากไม่สามารถบินเข้าสนามบินภูเก็ตหรือกระบี่และหาดใหญ่ได้
ขณะที่นักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่ต่างตื่น ตระหนกต่อสถานการณ์อย่างมาก ยอดจองท่องเที่ยวที่จะมีเข้ามาใหม่ที่ปกติต้องมีปริมาณมากเพราะ อยู่ในช่วงเข้าฤดูท่องเที่ยวปลายปีนี้ได้หยุดชะงักเกือบทั้งหมด รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยลดลงมาก
ผลการปิดสนามบินกระทบหนัก
ทั้งนี้ เมื่อการท่องเที่ยวเป็นสิ่งอ่อนไหวง่ายหากสถานการณ์คงเป็นเช่นนี้ต่อไปย่อมส่งผลกระทบถึงขั้นมีการออกหนังสือเตือนการเดินทางท่องเที่ยวจากหลายประเทศ ซึ่งเป็นการยากแก้ไขให้นักท่อง เที่ยวกลับมาเช่นเดิม อีกทั้งการท่องเที่ยวในประเทศก็ซบเซาลง สทท.จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดสร้างสถานการณ์ที่จะเป็นผลลบต่ออุตสาหกรรมไปมากกว่านี้ในทันทีและขอเรียกร้องให้รัฐบาลและ พธม.ทำทุกอย่างโดยเห็นแก่ประโยชน์ของชาติ
“อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักเข้าประเทศปีละ 700,000 ล้านบาท เป็นเม็ดเงินที่อยู่ในประเทศไทยและกระจายไปทุกส่วนจนถึงเกษตรกรเพราะนักท่องเที่ยวเข้ามาต้องทานข้าว ใช้เงิน ขอรบกวนสื่อมวลชนแจ้งอ้อนวอนทั้งฝ่ายรัฐบาลและทุกคนเห็นแก่ประเทศชาติ อย่าทำร้ายประเทศชาติถอยไปอีกเลย”
ด้านนายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมที่นำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ประ-เทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีการชุมนุมหลายครั้งแต่นักท่องเที่ยวก็ยัง เชื่อมั่นประเทศไทย แต่สาเหตุสำคัญที่สุดการปิดสนามบินได้กระทบอย่างมาก หากไม่ปิดสนามบินนักท่องเที่ยวก็ยังมาเหมือนเดิมการออกหนังสือเตือนจากรัฐบาลประเทศต่างๆ ให้ระวังมาเที่ยวประเทศไทยก็ไม่เกิด แต่ที่เขาต้องเตือนเพราะเข้ามาไทยแล้วไปต่อไม่ได้ หากไม่ปิดสนามบินก็เดินทางได้ปกติ ส่วนกรณีมีข่าวว่า พธม.จะปิดสนามบินในภาคใต้อีก 7 แห่งนั้น อยากให้คนในพื้นที่ท่องเที่ยวช่วยร่วมมือกัน เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวส่งผลกระทบไปหลากหลายทั้งภาคเกษตรอุตสาหกรรมกระทบต่อพ่อ แม่ ตา ยายทุกคน เพราะไม่มีรายได้ เมื่อใดทุกคนตกงานหมด เศรษฐกิจของประเทศก็เสียหาย
รอความหวังจัดงานเที่ยวไทย
“ผมอยากขอใครก็ตามคิดจะทำอะไรให้คิดถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใครชนะก็ตาม ประเทศชาติล่มจมแล้วใครจะมาเป็นผู้กู้ ขอร้องผ่านสื่อช่วยบอกผู้ชุมนุมว่าเหตุการณ์ทั้งหมดทำอะไรไปอาจส่งผลกระทบเศรษฐกิจประเทศและจะส่งผลกระทบต่อตัวท่านเองและผม เชื่อว่าเส้นตายของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากกลุ่มยุโรป ในวันที่ 15 ก.ย. หากการชุมนุมยังไม่สงบก็จะกระทบกับการท่องเที่ยวช่วงไฮต์ซีซั่นแน่ โดยเฉพาะกลุ่มคู่ฮันนีมูนที่เป็นนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้อาจเปลี่ยนเป้าหมายจากไทยไปประเทศอื่น ด้านอินเดีย จีน และฮ่องกง ก็เริ่มหายไป ขณะที่ออสเตรเลียบางส่วนเปลี่ยนใจไปบาหลีแล้ว”
ส่วนการประชุมร่วมกับ ททท.ก็เตรียมหาทางปรับแผนการตลาดกัน โดย ททท.แจ้งว่าขณะนี้มีเงินในกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 20 ล้านบาท หากมีความจำเป็นจริงๆ ผู้ประกอบการมีความเดือดร้อนก็นำมาใช้ได้และได้ตกลงกับ ททท.ว่าจะมีการประชุมร่วมกันทุกวันจันทร์
ด้าน น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.)กล่าวว่า ยอมรับข้อคิดเห็นที่แตกต่างของภาคประชาชนในระบอบประชาธิปไตยว่าเป็นเรื่องปกติแต่ 2-3 วันที่ผ่านมาที่มีการปิดสนามบินและรถไฟหยุดวิ่งทำให้การท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยที่ซบเซาอยู่แล้วชะงักไปกันใหญ่ ทัวร์รถไฟก็หยุดชะงัก อยากให้แต่ละฝ่ายกลับมาพูดคุยหรือมีวิธีการใดให้ฝ่ายการเมืองอย่าให้เหตุการณ์นี้กระทบกับเม็ดเงินที่สร้างประเทศไม่เฉพาะจังหวัดที่มีสนามบิน แต่ภาพรวมประเทศถูกกระทบไปแล้ว
“ตอนนี้ยังหวังว่าการจัดงานไทยเที่ยวไทยระหว่าง 4-7 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะช่วยให้คนไทยลุกขึ้นมาท่องเที่ยวกันต่อและมีแพ็กเกจน่าสนใจ โดยเฉพาะแพ็กเกจที่จัดร่วมกับแอร์เอเชียหรือหากไปเที่ยวโดยเครื่องบินไม่ได้ก็ยังไปโดยรถโค้ชได้ ช่วงนี้เป็นวิกฤติที่ทุกคนต้องมาช่วยกัน”.

ที่มา:http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=102711

10 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ถึงขั้นที่ว่าต่างชาติ ไม่ไว้วางใจแบบนี้
กระเทือนไปถึง การท่องเที่ยวในประเทศ
นี่คงจะไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบแล้วล่ะมั้ง

เศรษฐกิจของชาติ ตกตำยำแย่ลงไปทุกวัน
ทำไมนะ ไม่รู้จักคิดอะไรกันบ้างเลย



Thanongsak Iyuanchai
5131601327

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เเล้วการเมือง เศรษฐกิจของไทย
ไปถึงไหนเเล้วเนี่ย
เอาเเต่ ปิด ถนน ปิดโรงเรียนกัน
ม่ายห่วงเรื่อง เศรษฐกิจของชาติบ้างเลยหรอ

จะรอดมั้ย เนี่ย ประเทศไทย????

นส.จันทนีย์ กิตติศักดิ์เสรี
5131601263

king_violentcy กล่าวว่า...

อยากประท้วงอะไรก็ขอให้คิดถึงผลกระทบบ้าง
ไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำ อยากจะปิดถนนก็ปิด
อยากปิดสนามบินก็ปิดโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอื่นเลย แล้วบอกให้ประชาชนหยุดทำงาน
มาร่วมกันประท้วงแบบนี้มันไม่ถูก ทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องทำน่ะ อย่าลืมหน้าที่หลักของตนเอง ท่าทุกคนเอาแต่ประท้วงแล้วเศรษฐกิจในอนาคตจะเป็นยังไงหลังการประท้วง จะมีคนกล้ามาเมืองไทยมั้ย

Patchraporn
5131601423

Mrmondaynight กล่าวว่า...

โดยหลายๆเรื่องผมเห็นด้วยกับพันธมิตรฯนะครับ แต่สำหรับเรื่องนี้ ผมว่าพันธมิตรฯทำให้ประเทศเสียหายจริงๆ แต่ถ้าเกิดว่ารัฐบาลแสดงความรับผิดชอบตั้งแต่แรก เหตการณ์แบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น แต่จะมัวแต่โทษฝ่ายนึงฝ่ายใดไม่ได้ เพราะเราควรจะทำให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว เพื่อชาตเราจะได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติเสียที

นายปารเมศ เนื่องชมภู รหัสนักศึกษา 5131601399
section 02 school of law

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผิดที่รัฐบาล

แต่บางที พธม.ก็อาจทำเกินไปบ้าง

แต่ถ้ามันไม่มี นปก. มันก็คงไม่รุนแรงอย่างนี้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากให้พวกเขาเลิกประท้วงกันซะที
ประท้วงไปก็ไม่มีไรดีขึ้นมา
มีแต่จะทำให้ประเทศชาติตกต่ำลงด้วยซ้ำ
เศรษฐกิจก็ทรุดตัวลงทุกวันๆๆ
อย่างงี้จะมีใครกล้ามาเที่ยวประเทศเรามั่ง
อยากให้ลองคิดดูดีๆๆว่าที่ทำอยู่น่ะเพื่อประเทศแน่หรอ
หรือทำไปเพื่อความซะใจของตัวเองกันแน่

นางสาววาสินี สวัสดิพงษ์
ID:5131601486

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นมั๊ย ! บ้านเมืองถูกคนอื่นเค้ามองว่า

ป่าเถื่อน ใหญ่แล้วเนี่ย

ยังจะไม่หยุดอีกหรือไง

..ต้องให้คนไทยไม่พอใจเท่าไร..ถึงจะฟัง....


น.ส.รุจิรา บุญยะประภา

ID : 513-1601-464

sec : 2

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โลกก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลาแต่ในเวลานี้ประเทศเรากำลังทำเหมือนมีเวลาว่างมากพอที่จะมาชุมนุมประท้วงกันจนกระทบไปถึงเรื่องเศรษฐกิจกันหมดแล้วหรืออาจเป็นเรื่องอื่นๆๆอีกยื่งไปกว่านี้คิอการปิดถนน อณาคตของชาติอยู่ที่เด็กไม่ใช่หรือทำไมไม่ให้เด็กๆๆได้เรียนได้ศึกษาทำไมถึงต้องทำให้ต้องหยุดเรียน

ถ้าอยากได้การพัฒนาที่ดีและใหม่ก็ควรหันมาส่งเสริมที่อณาคตของชาติมิใช่หรือ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เฮ้อ

ประเทศชาติเสียภาพพจน์

รายได้ที่มาจากการท่องเที่ยวในประเทศ
คงจะขาดหายไปอิกเยอะ

ประเทศไทยวิกิตสุดเลยตอนนี้

รักกันๆซิ เลิกทะเลาะกันหันมาพัฒนา

ประเทศกันดีกว่า

Chittagran Boongird
5031205013

Unknown กล่าวว่า...

ก่อนน่านี้การท่องเที่ยวซบเซาลงเน่องจากเหตุการณ์ซึนามิ ต่อมาก็เป็นเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในเหตุการณ์ปัจจุบันที่ประเทศชาติเราเหมือนมีศึกกลางเมือง เราคิดว่าการที่ชาวต่างชาติไม่ไว้ใจประเทศไทยก็ไม่แปลก เพราะลองคิดในทางกลับกันดิ ประเทศไหนเป็นแบบนี้ เราจยังอยากมาเที่ยวอยู่ไหม ???

น.ส.เพียงตะวัน พงษ์ไพบูลย์
ID5131601149

ฝากบล็อกของเราด้วยนะคะ
http://thai-political.blogspot.com